โดย ดร.วัลภา เพ็ญแสงงาม

                                                         ชะลอความแก่ด้วยธรรมชาติบำบัด

  ความเสื่อม ของร่างกายที่เราเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อร่างกายมีอายุสูงขึ้น สิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้เอง คือ ความเหนื่อยง่าย นั่นเป็นเพราะความแกร่งของหัวใจลดลง ถุงลมในปอดลดลง เซลล์ประสาทก็หย่อนสมรรถนะลง ไม่กระชุ่มกระชวยเหมือนก่อน ทำให้เรามีอารมณ์ปรวนแปรได้ง่าย นอนหลับไม่สบาย และก็อ่อนเพลียได้ตลอดเวลาเลยสินะ  ทางด้านผิวพรรณก็หมดน้ำนวลที่เคยผุดผาด เซลล์ผิวหนังเสื่อมลงจนเห็นริ้วรอยระบบภายในก็หมดเรี่ยวแรง เส้นโลหิตก็แข็งตัว ทำให้เกิดตีบตัน คนแก่จึงวิงเวียนง่ายละเป็นลมได้ง่าย

  แต่เราก็ยังมีความสามารถพอ ที่จะทำชีวิตและร่างกายของเราให้โรยช้าลงสักนิด ด้วยการสร้างความงามให้แก่ร่างกายและชีวิต อายุเป็นเพียงตัวเลข สาเหตุของความแก่ยากหรือง่ายมีข้อสำคัญต่อไปนี้

  พันธุกรรม ถ้าบรรพบุรุษมีชีวิตยืนยาวก็ย่อมส่งผลถึงลูกหลานโดยทางพันธุกรรม

  อาหาร คนที่บริโภคอาหารที่ดีนั้นจะมีชีวิตที่ยืนยาวแทบทุกคน 

  อารมณ์ คนที่มีสุขภาพจิตที่ดี จะดูอ่อนเยาว์เสมอ  

สุขภาพกาย คนที่มีสุขภาพร่างกายกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา มักเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ

คนที่ทำงาน หนักตรากตรำในสภาพแวดล้อมที่เกิดมลภาวะ ร่างกายย่อมเสื่อมโทรมก่อนวัยอันควร

                                  โรคภัยในวัยชรา

 1. โรคเบาหวาน คนสูงอายุมักป่วยเป็นโรคเบาหวาน มักเป็นผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เพศหญิงและคนอ้วนจะป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่าย และโรคนี้จะไม่แสดงให้เห็นเด่นชัดในระยะเริ่มแรก โดยค่อยๆก่อตัวและนำโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอื่นๆตามมา เช่น โรคหัวใจ ตาบอด ประสาทเสื่อม โรคไต สมรรถภาพทางเพศเสื่อม วัณโรค เท้าเน่าดำ ถึงขั้นเกิดโรคหลอดเลือดตีบ จนเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดแตกในที่สุด

        เหตุของโรคกรรมพันธุ์ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง และสาเหตุอื่นก็คือต่อมไร้ท่อผิดปรกติ ตับอ่อนจึงไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานหรือกลัยโคเจนในไขมันได้ตามปกติ เมื่อน้ำตาลคั่งอยู่ในเส้นเลือด น้ำตาลจึงล้นออกมาทางปัสสาวะ

        อาการ รับประทานอาหารได้มากกว่าเดิม แต่น้ำหนักตัวลดเร็ว ผอมเร็ว,ปัสสาวะบ่อย สังเกตดูมดดำจะมาตอมปัสสาวะ,หากเกิดบาดแผลหรือฝีก็จะหายยาก แต่เป็นง่าย,เป็นเหน็บชาตามปลายมือ ปลายเท้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,เซ็กส์เสื่อมลงจนถึงขั้นตายด้าน และสายตาเสีย หรือเป็นต้อกระจก,อ่อนเพลียง่าย

       วิธีป้องกัน จัดเรื่องโภชนาการอย่างจริงจังและระมัดระวังที่สุด หยุดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล หากเป็นโรคเบาหวานแล้ว,ควบคุมน้ำหนัก,ออกกำลังสม่ำเสมอ,ระหว่างการรักษาตัว เมื่อน้ำตาลในเลือดลดต่ำผิดปกติ ควรมีของหวานไว้ใกล้ตัวทานทันทีเมื่อมีอาการจะเป็นลม

 2.  โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคนี้เกิดได้ 3 ลักษณะ คือ โรคหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง และโรคผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ทั้ง 3 ลักษณะเกิดขึ้นจากการที่เกิดพังผืดบนกล้ามเนื้อหัวใจ พังผืดเกิดได้จากเซลล์พังผืดผนังชั้นในหลอดเลือด ไขมัน โคเรสตอรอล และแคลเซียมในกระแสเลือดเพิ่มมากขึ้น บุหรี่ คือตัวอันตรายเพราะบุหรี่เพิ่มคาร์บอนไดออกไซต์ และสารพิษต่างๆทำลายผนังชั้นในของหลอดเลือด ทำให้เกิดการสะสมของโคเรสตอรอลและแคลเซี่ยมเกาะตามผนังหลอดเลือด เลือดก็ไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ เกิดอาการเจ็บปวดที่หัวใจ ซึ่งอาการถ้ารุนแรงความเจ็บแน่นหน้าอกจะเนิ่นนานขึ้นทุกที หัวใจอาจช็อกจนหัวใจหยุดเต้นหรือเลือดคั่งปอดจนเสียชีวิต

 3.  ความดันโลหิตสูง โรคนี้ผู้ชายเป็นได้ง่ายกว่าผู้หญิง มักเป็นกับคนในเมืองใหญ่ที่มีปัญหาจิตใจสูง

อาการและอันตราย ปวดศรีษะข้างเดียวเสมอ ,ปวดศีรษะที่ท้ายทอย พร้อมอาการตาพร่า คลื่นไส้ ในช่วงเช้า ,หอบรุนแรงเพราะหัวใจใกล้วาย ขาดออกซิเจนจนผิวคล้ำ ขาบวม ตับโตขึ้น และไอออกมาเป็นเลือด หัวใจจะวายเพราะกล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก ,อาจเป็นอัมพาต เพราะเส้นเลือดอุดตัน ,เกิดอาการไตวาย เพราะไตไม่สามารถขับของเสียออกมาทิ้งได้

วิธีป้องกัน เลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด ,มีระบบโภชนาการที่ดี ,สร้างสุขภาพจิตที่ดี ,ออกกำลังตามแพทย์สั่ง

    3.โรคระบบทางเดินหายใจ

โรคหลอดลมอักเสบ เกิดจากเนื้อหลอดลมในปอดอักเสบจนอากาศไม่สามารถเข้าไปฟอกโลหิตได้

โรคหวัดลงคอ เมื่อหายใจเอาฝุ่นละอองหรือแพ้อากาศเย็น ไอและเกิดเสมหะเรื้อรังจนหลอดลมอักเสบ

วัณโรค เชื้อจะแสดงอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอ บุหรี่และอายุสูงคือเหตุที่ต้องระวัง

มะเร็งในปอด โรคนี้เกิดที่ปอดแล้วสามารถกระจายไปส่วนอื่นๆได้

    4. โรคมะเร็ง อวัยวะในร่างกายสามารถเป็นเนื้องอกร้ายได้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดที่ ปอด ตับ มดลูก  และเต้านม(เพศหญิง) เกิดจากเซลล์อ่อนในอวัยวะนั้นๆ เกิดแบ่งตัวและแพร่เร็วเกินปกติ จึงไปทำลายเนื้อเยื่อบริเวณนั้น เราจะไม่รู้สึกเลยถึงการเกิดนี้ สาเหตุของมะเร็งนั้นจนปัจจุบันนี้ยังเป็นปริศนา

อาการ เบื่ออาหารน้หนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ,เสียงแหบพร่า ไอบ่อย กลืนลำบาก ,ระบบขับถ่ายปรวนแปรและปัสสาวะมีเลือดออกมาสดๆ ,ปวดเมื่อยสันหลังหรือข้ออย่างรุนแรง ในผู้หญิงประจำเดือนอาจผิดปกติ ,ตุ่ม หรือก้อนต่างๆโตเร็วผิดปกติ บาดแผลเรื้อรัง

วิธีป้องกัน เลือกรับประทานอาหารที่ดี ,ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพจิต หมั่นตรวจสุขภาพ

     5. โรคทางเดินอาหาร ระบบทางเดินอาหารมีโรคที่เกิดขึ้นได้มากมาย กับคนอายุมากมีอาการแทรกซ้อนที่ก่อให้เกิดโรคอื่นตามมา

อาการ ต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น เกิดแผลในปากเหงือกแล้วเรื้อรังรักษาไม่หาย ,กลืนอาหารม่คล่องคอ ,ผอมลงอย่างรวดเร็ว โลหิตจาง ,ปวดเสียดท้องทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หากเป็นมากเหงื่อแตก อาเจียนเป็นเลือด ,ระบบขับถ่ายผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น มีมูกเลือด ถ้าพบอาการเช่นนี้ควรรีบไปพบแพทย์

     6.ข้อและกระดูก ร่างกายที่ไม่เคยออกกำลังกาย เนื้อเยื่อหรือเอ็นหุ้มข้อเสื่อม กระดูกที่ผุเปราะเพราะไม่แข็งแรง น้ำหนักมากเกินไปที่ข้อจะรับได้ แคลเซี่ยมที่เกาะตามข้อจนกดเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดในผู้สูงวัย

วิธีป้องกัน ระมัดระวังท่าทางกายเวลาที่ออกกำลังหรือทำงาน ,ควบคุมเรื่องอาหารการกินและน้ำหนักตัวให้ดี

    7.โรคหูพิการ สาเหตุเกิดจากการเสื่อมของแก้วหู เมื่อเส้นเลือดตีบตัน เลือดก็ไม่อาจไปเลี้ยงหูชั้นในได้ ทำให้เวียนศีรษะ ทรงตัวไม่มั่น

    8.โรคตา ผู้สูงอายุสายตาจะยาวขึ้น มองไม่ถนัดในที่มืด โรคที่มักพบคือ ตาต้อหิน ต้อกระจก

ต้อหิน สาเหตุจากความดันในโพรงลูกตาเพิ่มขึ้น ลูกตาจะแข็งขึ้น อาการ  จะปวดลูกตาอย่างรุนแรง มีไข้ และคลื่นไส้อาเจียน

ต้อกระจก สาเหตุจากแก้วตาเสื่อม เกิดขุ่นมัวเป็นฝ้า บางครั้งหลังรับการผ่าตัดแล้วอาการก็ยังมองไม่ชัด พร่ามัว

วิธีป้องกัน ฝึกบริหารลูกตาด้วยการกลอกลูกตาไปมา บริหารเปลือกตาด้วยปลายนิ้ว,หากแพทย์ไม่แนะนำก็ไม่ควรล้างตาด้วยน้ยาใดๆ, เลี่ยงการใส่แว่นตาสีต่างๆในบริเวณที่แสงไม่จ้านัก

    9.โรคในปาก โรคในปากบางครั้งก็เป็นเหตุให้นำพาไปสู่โรคภายในอื่นๆ ความเครียดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคภายในช่องปาก

  10.โรคประสาท คนสูงวัยที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ขาดความอบอุ่นหรือยึดติดอยู่กับบางสิ่งมากไป ก็สามารถเป็นเหตุให้เกิดโรคจิตประสาทได้

น้ำหนักสมองคนเราจะลดลงประมาณ 300 กรัม เมื่ออายุมากขึ้น เส้นประสาทก็เสื่อมลง

อาการ อารมณ์ปรวนแปรเหมือนเด็ก เช่น ขี้งอน ฉุนเฉียว ขี้น้อยใจ ดื้อรั้น,ด้านสภาพร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ปวดศีรษะ

          สิ่งที่โดดเด่นที่สุด ก็คงเห็นอย่างชัดเจนว่าการออกกำลังกาย และการบริโภคอาหารที่ดีนั้นสามารถสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นแก่ร่างกาย และเพิ่มความแข็งแกร่งจนโรคภัยต่างๆไม่อาจรุกรานเข้าไปในร่างกายได้

         โดยเฉพาะการรักษาจิตใจให้สดใส ซึ่งจิตใจนั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับร่างกาย เมื่อมีสัขภาพจิตที่ดี ความเสื่อมตามธรรมชาติของร่างกายก็จะชะลอการเสื่อมลง

     อดอาหารเพื่อล้างพิษ  การอดอาหารให้ประสิทธิผลต่อการบำบัดโรคได้นานาชนิด เพราะการอดอาหารมีผลโดยตรงที่ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนที่ดีภายในร่างกาย ด้วยวิธีธรรมชาตินี้สามารถสร้างความสมดุลให้กระบวนการต่างๆในร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม

โปรแกรมที่ 1 อดอาหารเช้าวันอาทิตย์ ในร่างกายมีขบวนการอดอาหารอยู่แล้ว คือช่วงเวลาที่สิ้นสุดการรับประทานอาหารมื้อเย็น จนถึงช่วงเช้าของวันใหม่ นับได้ประมาณ 10 ชั่วโมงและช่วงเวลานั้นเองที่ขบวนขจัดพิษได้เกิดขึ้นภายในร่างกาย  เมื่อเราอดมื้อเช้าเท่ากับเป็นการเพิ่มเวลาการล้างพิษให้ร่างกายได้อีกหลายชั่วโมง หากได้ทำต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ร่างกายผิวพรรณจะเปล่งปลั่ง

โปรแกรมที่ 2 อดอาหารทุกมื้อ 1 วัน หมายถึงอดอาหารทั้งวันโดยไม่รับประทานอะไรเลย หากเป็นการเริ่มครั้งแรกสามารถดื่มนมและผลไม้ 1-2 ผลได้ในระหว่างวันนั้น และครั้งต่อไปค่อยปรับลดเหลือเพียงผลไม้ 1 ผล จนเหลือเพียงน้ำเปล่าอย่างเดียว และเมื่อนั้นก็สามารถอดอาหารได้ 24 ชั่วโมงโดยไม่ทานอะไรเลย

     อาการระหว่างอดอาหาร  ระยะ 3-10 ชั่วโมงแรกที่มีการอดอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงจนรู้สึกหิวโหย อยากรับประทานอาหารอย่างรุนแรง ในร่างกายจะมีการเผาผลาญไขมันเพื่อหาพลังงานทดแทน

                                        เมื่อ 10 ชั่วโมงผ่านไป เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียน ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตัวร้อนมีไข้ มีกลิ่นตัว กลิ่นลมหายใจอาการเหล่านี้ไม่มีพิษใดๆขอให้อดทนไว้ เพราะร่างกายจะจัดการกับภาวะนั้นทำให้สบายขึ้นเอง หากทนไม่ไหวจริงๆระหว่างอดอาหาร ให้ดื่มน้ำมากๆหรือน้ำมะนาว อาการปวดเมื่อยให้อาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็น  คลื่นไส้ให้ใช้นิ้วมือกดที่ท้องแขน สูงจากข้อมือเล็กน้อย กดแรงๆพร้อมกับกด 2 จุดที่หน้าแข็ง ต่ำจากหัวเข่าทั้งสองขา กดแรงสักครู่

ร้านตั้งจิวหลง(ไก่ดำ) โทร.082-340-2078   mailto:jewlongt@yahoo.com

     Click กลับสู่หน้าร้านจิวหลงเครื่องเทศ jewlong herb&spice